สาเหตุที่นำไปสู่แนวความคิดกบฏ และการรักษาเยียวยาการมีแนวความคิดแบบนั้น
ส่วนหนึ่งจากข้อความที่ได้รับการคัดเลือกมาจากการ Twist ของท่านเชค ดร. สุไลมาน อั้รรุฮัยลี่
•••═══ ༻✿༺═══ •••
กลุ่มชนของเราครับ เหตุการณ์การระเบิด การฆ่าแกง การทำลายล้าง มันไม่ใช่เรื่องที่อยู่ๆมันก็เกิดขึ้นมาแบบนั้นเฉยๆนะครับ แต่จริงๆแล้วมันเป็นอะไรที่วนเวียนอยู่กับวงจรเหล่านี้ ซึ่งได้แก่ การพยายามสร้างความรังเกียจเพื่อให้เกิดการปลีกตัว ตามมาด้วย การตัดสินว่าเป็นกาเฟร ตามด้วย การก่อเหตุระเบิด ตามด้วยการหาข้ออ้างมาเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการก่อเหตุที่ได้ลงมือไป และตามมาด้วยการตีกรอบล้อมรั้วกำหนดตัวผู้รับผิดชอบ แล้วก็กลับมาสู่การพยายามสร้างความรังเกียจเพื่อให้เกิดการปลีกตัวอีกครั้ง
ซึ่งในแต่ละขั้นตอน ทุกๆขั้นนั้น มันจะมีเครื่องมือของมันอยู่ครับ
ใครก็ตามที่ต้องการที่จะเข้ามาทำการเยียวยารักษาการก่ออาชญากรรมด้วยการก่อเหตุระเบิดนั้น สิ่งที่เขาต้องทำคือ จะต้องเริ่มต้นตั้งแต่ตัวเขาเองอย่างเด็ดเดี่ยวและจริงจังเสียก่อนเลยครับ และดูว่า ตัวเองเป็นส่วนเกี่ยวข้องหนึ่งที่นำพาให้บรรดาวัยรุ่นถลำไปสู่เส้นทางแบบนั้นแม้ด้วยเพียงการพูดคำพูดหนึ่งออกมาก็ตามด้วยหรือเปล่า? ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็จะต้องรู้สึกสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวและออกมาแก้ไขเรื่องตรงนั้นอย่างกล้าหาญด้วย
ทุกๆแนวทางหรือทุกๆคำพูดที่นำความมืดมนเข้าไปสู่หัวใจในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบรรดาผู้นำและบรรดานักวิชาการผู้เป็นที่เชื่อถือและอยู่บนทางที่ถูกต้องนั้น ถือเป็นก้าวแรกของเส้นทางแห่งการก่อเหตุระเบิด ดังนั้นพวกเราจึงจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญกับการสร้างความผ่องใสและความปลอดภัยแก่หัวใจเอาไว้ให้มากครับ
คนทุกคนที่เข้ามาทำการปลุกเร้าให้จิตใจรู้สึกต่อต้านต่อผู้นำมุสลิมด้วยการกล่าวหาว่าพวกเขาปฏิเสธศรัทธาหรือด้วยการหมิ่นเกียรติดูถูก นั่นเท่ากับว่าเขากำลังปลูกฝังแนวความคิดทำลายล้างและแนวความคิดตัดสินผู้อื่นว่าเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาเข้าไปในจิตใจของบรรดาวัยรุ่นอยู่ และเท่ากับว่าเขากำลังเข้าไปมีส่วนร่วมกับวัยรุ่นพวกนั้นในการเล่นงานศาสนาและเล่นงานบรรดาผู้ที่มั่นคงอยู่บนศาสนาที่ถูกต้องอยู่ด้วยเช่นกัน
การได้ทำงานในองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการเตือนสติผู้หลงผิดได้สอนให้ผมรู้ว่า การมีแนวความคิดที่ผิดรูปนั้นคือความโง่เขลาที่ถูกบ่มเพาะมาจาก
1 สายธารแห่งความเลยเถิดในเรื่องศาสนา
2 การดูแคลนผู้ร่วมสังคม
3 การโจมตีศาสนา
ซึ่งแนวทางในการเยียวยารักษาเรื่องๆนี้ก็คือ
1 วิชาการที่ถูกต้อง
2 การมีความสมดุลตามแนวทางของท่านนบี
3 การให้เกียรติศาสนา
คนบางคนออกมากล่าวหาแนวทางของศาสนาว่ามันเป็นสาเหตุของการก่อการร้าย แต่แล้วก็มีคำตอบออกมาแบบสะท้านวงการ ด้วยการปรากฏตัวขึ้นของบรรดาผู้ก่อการร้ายจำนวนมากที่มาจากประเทศที่ไม่ได้เรียนรู้เรื่องศาสนา ซึ่งมันอธิบายให้ทราบว่าสาเหตุจริงๆแล้ว มันมาจากความคิดที่มันมืดมนต่างหาก
ความคิดที่มืดมนคือ สาเหตุของการก่ออาชญากรรมมากมายที่เราได้ยินกันทุกวันนี้ในหลายๆพื้นที่ในโลก มันเป็นความคิดที่ยืนอยู่บนความเคียดแค้นที่มีต่อบรรดานักวิชาการ ต่อบรรดาผู้ปกครองและต่อสังคม มันเป็นความคิดที่เข้ามาโต้แย้งและต่อกรกับความรู้ที่ถูกต้อง.
ผิดมหันต์เลยครับที่ประเทศบางประเทศคิดว่า การเยียวยารักษาการก่อการร้ายนั้นจะมีขึ้นได้ด้วยกับการพยายามกีดกันให้เกิดการหันห่างออกจากศาสนา เพราะจริงๆแล้ววิธีการแบบนี้มันรังแต่จะทำให้เพลิงยิ่งกระพือและโหมแรงมากขึ้นเท่านั้น แต่วิธีการการเยียวยาที่ถูกต้องจะมีขึ้นด้วยกับการเข้าใจศาสนาอย่างสะอาดและบริสุทธิ์ ปราศจากการต่อเติมของพวกที่อุตริต่างหาก
ส่วนหนึ่งจากแผนการของพวกคนที่ชั่วช้า ก็ได้แก่การ ปลูกฝังความเคลือบแคลงในตัวของผู้นำมุสลิมเข้าไปในจิตใจของผู้ถูกปกครองทั้งหลาย และปลูกฝังความเคลือบแคลงต่อคนที่ออกมาทำหน้าที่ตีแผ่แผนการชั่วและความคลุมเครือด้วยความจริงใจไว้ในหัวใจของตัวผู้นำมุสลิมนั่นเอง
ผมมาดหวังเหลือเกินครับ ที่ถ้าหากกลุ่มชนของผมได้รู้เรื่องๆนี้ มันก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว
อ.อาบิดีณ โยธาสมุทร
ต้นฉบับ
أسباب فكر الخوارج وعلاجه